-
ที่สิทธิศาสตร์ สอนอะไร
ที่นี่เราสอนเป็นแบบบูรณาการ โดยนำวิธีการสอนของโรงเรียนที่เรียกว่า Play & Learn Tutoring เป็นการเรียนรู้ ที่เน้นการสังเกต การคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดเชื่อมโยง ที่รวมเรียกว่า เชาวน์ปัญญา สอนผ่านสื่อที่เป็นของเล่น มาผสมผสานกับแนวทางการสอนของประเทศฟินแลนด์ ภายใต้บริบทไทยตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ที่นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ เรียนอย่างสนุก และมีความสนใจและตั้งใจในกิจกรรมมากขึ้น เกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมาย สามารถเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้
ที่นี่ เน้นอะไร
ที่นี่เราเน้นให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความหมายและสามารถเข้าใจได้ด้วยตนเอง ผ่านการตั้งสมมติฐานและลงมือปฏิบัติ เพื่อค้นหาคำตอบ โดยครูจะเป็นผู้เอื้ออำนวย ให้เกิดการเรียนรู้ภายใต้สาระที่ได้กำหนดไว้ วิธีนี้ช่วยให้นักเรียนมีพื้นที่ในการแสดงออก เกิดการสนทนา กล้าซัก-ถาม สามารถเป็นผู้นำและผู้ตามได้ ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นได้
สรุปแล้ว เด็กเรียนที่สิทธิศาสตร์ แล้วได้อะไร
สิ่งแรกที่ได้ คือ ความสุข สนุกที่ได้เรียนรู้ ร่าเริงแจ่มใส มีความสุขกับการมาโรงเรียน ที่มีบรรยากาศในการช่วยเสริมสร้างให้เกิด กล้าคิด กล้าแสดงออก มีพัฒนาการทางจิตสังคม มีพัฒนาการทางจริยธรรม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ เคารพข้อตกลงของสังคม และสามารถปฏิบัติตามได้ มีแรงขับที่อยากจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และพร้อมที่จะเรียนรู้ ด้วยความรู้สึกที่ดี จากประสบการณ์การเรียนรู้ที่ตนเองสามารถค้นหาคำตอบได้ด้วยตนเอง ความรู้ที่ได้สามารถนำไปเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น มีความหมายกับการเรียนรู้
อยากทราบว่าที่สิทธิศาสตร์แตกต่างกับอนุบาลที่อื่นอย่างไร
ที่แตกต่างชัดเจน คือ กระบวนการเรียนรู้ที่โรงเรียนจัดขึ้นเป็นที่พัฒนามาจากวิธีการสอนของโรงเรียนที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการเล่น ผ่านสื่อที่เป็นของเล่น มาผสมผสานกับแนวทางการจัดการเรียนการสอนของประเทศฟินแลนด์ ให้เป็นลักษณะเฉพาะของสิทธิศาสตร์ และที่แตกต่างคือเรามีบุคลากรด้านจิตวิทยา และการศึกษาปฐมวัย ที่มีความรู้และประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนเด็กปฐมวัย มากกว่า 24 ปี
ที่สิทธิศาสตร์ รับเด็กตั้งแต่อายุเท่าไร
รับเด็กเตรียมอนุบาล ถึง อนุบาล 3 คือตั้งแต่ 2 ขวบ ถึง 6 ขวบ
นักเรียนที่สิทธิศาสตร์ ส่วนมากจะมาเรียนเพื่อไปสอบสาธิตใช่ไหม
ใช่ครับ เนื่องด้วยโรงเรียนทำการสอนที่เน้นพัฒนาด้านการสังเกต การคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดเชื่อมโยง และฝึกการฟังอย่างตั้งใจ ปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างถูกต้อง เป็นแนวเชาวน์ปัญญา ที่สอดคล้องกับวิธีการคัดเลือกเข้าเรียนต่อในโรงเรียนสาธิต
จริงๆ แล้ว แนวการสอนของโรงเรียน นักเรียนสามารถไปสอบได้ทั้งเครือสาธิต และเครือคาทอลิกได้ เพราะกระบวนการสอนตามแนวทาง Play & Learn Tutoring ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความพร้อมทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคมและจิตใจ โดยเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ฝึกความคิด และได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เป็นสมรรถนะติดตัว สามารถนำไปแก้ปัญหาได้ทั้งในสนามสอบ และชีวิตจริง
การเล่นมีประโยชน์อย่างไรกับเด็ก
มีประโยชน์กับเด็กวัยนี้อย่างมาก เพราะการเล่น จะมุ่งเน้นกระบวนการ มากกว่าผลผลิต หมายถึง การพัฒนาการของเด็ก จะเกิดขึ้นตลอดเวลาในระหว่างการเล่น ผลลัพธ์ที่ทำได้อาจแตกต่างกัน เพราะการเล่นมีความยืดหยุ่น และเป็นอิสระ ขึ้นกับสถานการณ์ หรือผู้เล่น การเล่นยังช่วยให้เกิดการสำรวจผู้คน สำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัว และที่สำคัญที่สุดคือ เด็กมีการพัฒนาทักษะในหลายๆ ด้าน จากการเล่นกิจกรรมเดียว การเล่นเป็นการเรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นภายในตัวเด็ก ด้วยการกระทำของเขาเอง โดยมีครูเป็นผู้ช่วยเหลือ แนะนำ เพราะเราเชื่อว่าเด็กจะสามารถสร้างความรู้ด้วยตนเองได้ดี โดยผ่านการปฏิบัติ และจากการสัมพันธ์ทางสังคมกับสิ่งแวดล้อม เช่น เด็กกับครู เด็กกับเพื่อน เด็กกับสิ่งที่เล่น เด็กกับสถานที่เล่น
บ้านอยู่ไกล ถ้ามาเรียนเฉพาะวันเสาร์ / อาทิตย์ที่เป็นบ้านของเล่นอย่างเดียวได้ไหม
ได้ครับ ขึ้นกับความสะดวกของผู้ปกครองครับ เสาร์ / อาทิตย์ เป็นทางเลือกให้ผู้ปกครองที่สนใจให้ลูกมีพัฒนาการด้านเชาวน์ปัญญา ที่ไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนในวันธรรมดาได้ เป็นการเล่นผ่านสื่อที่เป็นของเล่นเพื่อการศึกษา จับต้องได้ เป็นสามมิติและค่อยๆ เชื่อมโยงไปสู่สองมิติ ที่เป็นแบบฝึกหัด สามารถคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ได้ จากเรื่องที่เรียนหลาย ๆ เรื่อง นำมาตอบคำถามเพียงข้อเดียว โดยยังมีเจตคติที่ดีในการเรียน มีความสุข รับรู้ว่าการเรียนกับการเล่นเป็นสิ่งเดียวกัน